ศึกษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่

• สำรวจสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ทางลำเลียงน้ำ ในแต่ละด้านของพื้นที่
• ด้านทิศตะวันออก ไม่ควรอยู่ใกล้สิ่งก่อสร้าง อาคาร บ้าน หรือต้นไม้ใหญ่
• พื้นที่ลุ่ม หรือ พื้นที่ดอน

รู้ทิศทางแสง

แสงมีความสำคัญในการสังเคราะห์ด้วยแสง ช่วยให้พืชสะสมอาหารและสามารถนำไปใช้ในการ

เจริญเติบโต ถ้าพืชได้รับแสงไม่เพียงพอจะส่งผลให้ลำต้นยืด โครงสร้างใบอ่อนแอ ไม่ติดดอกผล

• พืชต้องการแสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น
• ควรทำแปลงผักให้อยู่ทิศทางเหนือ – ใต้ หรือวางแปลงผักขวางทิศทางตะวัน
• แปลงผักที่ต้นเตี้ยหรือผักกินใบ ควรอยู่ด้านหน้าแปลงในทิศตะวันออก และเรียงลำดับความสูงของผัก เพื่อป้องกันการได้รับแสงในช่วงเช้าไม่เพียงพอ
• ถ้าแสงแดดมาก อุณหภูมิจะสูง ควรพรางแสงด้วยซาแลนสีเขียว หรือฟ้า ในช่วงฤดูร้อน

รู้ทิศทางลม

ลมมีความสำคัญต่อการสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ การขุดบ่อ สระ รวมไปถึงการปลูกไม้บังลม ถ้าวางตำแหน่งสิ่งเหล่านี้ถูกต้องจะส่งผลให้พื้นที่มีอากาศไหลเวียน พื้นที่ไม่สะสมความร้อน

• บ้าน โรงเรือน โรงคัดแยกและบรรจุผัก ควรหันหน้าไปทางทิศใต้ หรือทิศที่ลมเข้า จะช่วยให้อากาศถ่ายเท และเย็นสบาย
• โรงผลิตปุ๋ย เล้าไก่ เล้าเป็ด ควรอยู่ใต้ลมเพื่อไม่ให้กลิ่นพัดเข้าบ้าน
• ไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังทิศทางลม

ศึกษาลักษณะทั่วไปของพืช

เพื่อเลือกพืชปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ และฤดูกาล รวมไปถึงความหลากหลายของพืชที่ปลูกเพื่อลด

การจัดการโรคและแมลงที่จะเกิดขึ้น